เชื่อว่าหลายๆคน ที่มักจะนำอาหารขยะมารับประทานเพื่อคลายความหิว และเมื่ออิ่มแล้วมันก็จะกลายเป็นความสุขมากๆ แต่คุณทราบไหมค่ะ ว่าได้มีงานวิจัยชิ้นใหม่เกี่ยวกับเรื่องการรับประทานอาหารขยะ แล้วมีอาการอารมณ์บูดมากกว่าเดิมอีกด้วย
โดยเรื่องนี้ได้มาจากคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในสหรัฐ ทำการศึกษากับสตรี 131 คนที่มีนิสัยชอบรับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกทั้งยังมีความกังวัลในเรื่องของรูปร่างของตัวเอง แต่ไม่มีปัญหาพฤติกรรมการบริโภคที่ผิดปกติ เพื่อดูว่าอารมณ์ของพวกเธอเหล่านี้เปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร ภายหลังการกินอาหารขยะ โดยเมื่อทำการรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันจริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การวิจัยชิ้นนี้แตกต่างจากการศึกษาผู้ที่มีปัญหาพฤติกรรมการกินผิดปกติ หรือการศึกษาจากห้องแล็บเพียงอย่างเดียว
โดยผลจากการทดลอง ปรากฏว่า หลังจากที่พวกเขารับประทานอาหารขยะเข้าไป ผู้ที่มีอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว กลับอารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิมอย่างชัดเจน ในทางกลับกัน คนที่อารมณ์ดีอยู่เดิม กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์เลย ไม่ว่าจะก่อนหรือภายหลังกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นจึงอาจจะหมายถึงว่า อาหารขยะทำให้อารมณ์ของคนที่บูดอยู่แล้วบูดมากกว่าเดิม
โดยทางด้านศาสตราจารย์โจชัว สมิธ ผู้ร่วมเขียนรายงานวิจัยกล่าวว่า การศึกษาชิ้นนี้แตกต่างจากชิ้นอื่น เพราะเป็นการประเมินอารมณ์และพฤติกรรมการทำภารกิจในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะให้ภาพที่ถูกต้องมากขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์และการกินอาหาร
อีกทั้งในงานวิจัยชิ้นนี้ ยังมีสนับสนุนผลการศึกษาที่ผ่านมา ซึ่งได้ชี้แนะว่าอาหารสะดวกซื้อหรืออาหารขยะนั้น อาจส่งผลร้ายต่อสภาพจิตใจของคนเราได้ อีกทั้งในด้านของนักวิจัยเฮเลน บอนด์ จากสมาคมโภชนาการอังกฤษ ได้มีการให้ตัวอย่างว่า การทานอาหารหวานมากหรือมีไขมันมากๆ ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่ลง เพราะอารมณ์คนเราขึ้นกับพลังงานที่ได้จากน้ำตาลกลูโคสในเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมองนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ เมื่อทราบกันแบบนี้แล้ว ควรคิดใหม่นะค่ะ เพราะว่าอาหารบูดนั้นอาจจะทำให้เรามีความสุขเพราะว่าเรากำลังกินให้คลายหิวเท่านั้น แต่เมื่อเรารับประทานจนหมด และหลังจากนั้น คุณอาจจะมีอารมณ์บูดมากกว่าเดิมอีกด้วยนะค่ะ และไม่ควรรับประทานบ่อย เพราะมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราอ้วนง่ายอีกด้วย